Saturday, April 21, 2018

ข้าวเหนียวแก้วนมสด ขนมไทยสีสดใสหวานหอม ทำไม่ยาก Sweet Sticky Rice





ที่มาวิดีโอ:  https://www.youtube.com/watch?v=UwIsxDgiQRg

ขนมบุหลันดั้นเมฆ วิธีทำขนมไทยโบราณสีสดใสไว้ลองชิม

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ
          มีใครรู้จักขนมบุหลันดั้นเมฆบ้าง ขนมไทยโบราณหากินยากแล้ว อยากให้คนหัวใจไทยได้ลองทำกินกัน แล้วจะหลงเสน่ห์ขนมไทยชนิดนี้เข้าอย่างจัง

          ขนมบุหลันดั้นเมฆ ถึงจะเป็นขนมไทย แต่เชื่อว่ายังมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่รู้จัก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ แต่ถ้าลองได้กินสักครั้งแล้วจะติดใจไปกับแป้งเหนียว ๆ นุ่ม ๆ สอดไส้ไข่แดง หวาน ๆ หอม ๆ แถมสีม่วงสดใสชวนให้หยิบมากิน วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาฝาก ไหน ๆ ก็หาซื้อมากินยากมากแล้ว จะได้ลองทำกันดู

ส่วนผสม ขนมบุหลันดั้นเมฆ
        • ดอกอัญชัน
        • น้ำร้อน (สำหรับคั้นน้ำอัญชัน)
        • กะทิ 120 กรัม
        • แป้งข้าวเจ้า 10 กรัม
        • เกลือ เล็กน้อย
        • ไข่แดง 10 ฟอง
        • น้ำตาลไอซิ่ง 60 กรัม
        • กลิ่นวานิลลา เล็กน้อย
        • แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
        • แป้งเท้ายายม่อม 40 กรัม
        • น้ำเปล่า 200 กรัม
        • น้ำเชื่อม 350 กรัม (พักไว้จนเย็น)
        • ถ้วยตะไล (สำหรับนึ่งขนม)

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • คั้นดอกอัญชันกับน้ำร้อนให้ได้ปริมาณ 100 กรัม พักไว้

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • ผสมกะทิกับแป้งข้าวเจ้า 10 กรัมเข้าด้วยกันแล้วนำไปเคี่ยวในกระทะให้พอข้น ๆ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย พักไว้

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • ตีผสมไข่แดงกับน้ำตาลไอซิ่งให้เข้ากัน

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • เติมกลิ่นวานิลลาลงไปเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำไปกรองให้เนื้อเนียน ๆ (ในภาพยังไม่ได้กรอง) เตรียมไว้

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • ผสมแป้งข้าวเจ้า 100 กรัมและแป้งเท้ายายม่อมให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้ำเปล่าลงไปผสม (ใส่น้ำเปล่านิดเดียวก่อนยังไม่ต้องใส่น้ำหมด แต่เผลอเทน้ำลงมากไปนิด)

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • นวดแป้งประมาณ 5 นาที แป้งจะไม่ติดมือและผิวจะมีลักษณะเงา ๆ

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • เทน้ำเปล่าที่เหลือลงไปจนหมด

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • ตามด้วยน้ำเชื่อมที่เย็นแล้ว

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • เทน้ำดอกอัญชันลงไปผสม

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • คนผสมให้เข้ากันแล้วนำไปกรอง พักไว้

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • นำถ้วยตะไลไปนึ่งให้ร้อน

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • หยอดส่วนผสมแป้งลงไปจนเกือบเต็ม ปิดฝานึ่งในน้ำเดือดประมาณ 2 -2.30 นาที ถ้าเกินกว่านั้น แป้งจะสุกเกิน สังเกตุจากขอบขนมเริ่มมีสีเข้มขึ้นและตรงกลางมีสียังอ่อน ๆ เป็นใช้ได้ 

        • จากนั้นให้รีบนำออกมาจากชุดนึ่งแล้วคว่ำถ้วยขนมลงชาม แป้งที่ยังไม่สุกก็จะไหลออกมา ทำให้ขนมเป็นหลุมตรงกลางแบบนี้

          หมายเหตุ : ตอนนึ่งครั้งแรก เผลอนึ่งนานไปหน่อย มันสุกไวมาก ตอนเทแป้งออก กลับกลายเป็นว่า นิ่งสนิท ไม่มีอะไรไหลออกมาเป็นหลุมเลย ครั้งต่อ ๆ ไปจึงลดเวลาการนึ่งลงเป็น 2 นาที ถึงจะเทแป้งเหลวออกได้ ก็ยากเล็กน้อยในตอนแรก พอจับทางได้ก็ไม่ยากละ 

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ
        • บีบหรือหยอดกะทิที่เคี่ยวไว้ลงไปในหลุม นำไปนึ่งต่ออีก 1 นาทีก็ได้ หรือจะหยอดไข่แดงเลยก็ได้ (มั้ง! แต่เรามีทั้งเอาไปกะทิไปนึ่งก่อน และมีทั้งหยอดไข่แดงทับไปเลยก็มี)

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

        • หยอดส่วนผสมไข่แดงลงในหลุม (ขั้นตอนนี้ระวัง ให้ปาดก้นช้อนทุกครั้ง อย่าให้มีไข่แดงติดมา เพราะมันจะหยดลงขอบขนมทำให้เลอะเทอะไม่สวย) จากนั้นนำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที เป็นอันเสร็จ

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ

วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ


ที่มา:  https://cooking.kapook.com/view118740.html

ออเดอร์เพียบ ! วัยรุ่นรวมตัวทำขนมไทยโบราณสูตรชาววัง ขายผ่านเฟซบุ๊ก

ออเดอร์เพียบ ! วัยรุ่นรวมตัวทำขนมไทยโบราณสูตรชาววัง ขายผ่านเฟซบุ๊ก

ออเดอร์เพียบ ! วัยรุ่นรวมตัวทำขนมไทยโบราณสูตรชาววัง ขายผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ ธุรกิจ

Workpoint TV
สนับสนุนเนื้อหา
ลงโซเชียลเพียง 5 วัน ผลตอบรับดีเกินคาดจนต้องเปิดร้าน ตีแบรนด์ “บ้านขนมไทยโบราณนางใน" ฝีมือกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวทำขนมไทยโบราณ สูตรชาววัง สมัยรัชกาลที่ 2หาทานยากในปัจจุบัน
วันที่ 26 ก.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 26/7 ม.8 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีกลุ่มวัยรุ่นยุคใหม่รวมกลุ่มกันทำขนมไทยโบราณ สูตรชาววัง สมัยรัชกาลที่ 2 ส่งขายผ่านโลกออนไลน์ โดยรับออเดอร์วันต่อวัน เพื่อให้ขนมไทยนั้นสดใหม่ทุกวัน สร้างแบรนด์ของตนเองว่า “บ้านขนมไทยนางใน”
kn2 

นายปกรนันท์ นิกรถา หรือน้องเพชร ในวัย 30 ต้นๆ ผู้เป็นหัวเรือใหญ่แห่ง “บ้านขนมไทยนางใน” เล่าว่า วันหนึ่งเกิดอยากจะมีรายได้เสริมในช่วงยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ จึงได้คุยกับเพื่อนๆ ว่าจะทำอะไรขายกันดีที่แปลก ไม่เหมือนใคร เพื่อดึงความสนใจและเป็นจุดขาย เลยมานั่งนึกว่าตนเองพอมีความรู้ด้านขนมไทยโบราณมาก่อน สมัยเรียนวิชาคหกรรม ตอนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อนๆ ในกลุ่มก็เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะขนมไทยโบราณแท้ๆ สูตรชาววัง เดี๋ยวนี้หาทานได้ยาก เพราะไม่ค่อยมีคนทำ เนื่องจากขั้นตอนการทำค่อนข้างยุ่งยากและต้องใช้เวลานาน ตนจึงเริ่มรื้อตำรา พร้อมปรึกษาอาจารย์สมัยเรียนบ้าง และลองปรับสูตรของตัวเองจนคิดว่าลงตัว จึงลงมือทำและลองให้เพื่อนๆ และญาติผู้ใหญ่ชิม ทุกคนก็บอกว่าอร่อย กลมกล่อม และลงตัวมาก จึงเริ่มโพสต์ขายทาง Facebook ส่วนตัว และของเพื่อนในกลุ่มอีก 3 คน
 kn4

“ปรากฏว่าผ่านไป 5 วัน ผลตอบรับดีเกินคาด มียอดออเดอร์สั่งทำถึง 300 กล่อง จึงคิดว่าเราเริ่มมาถูกทางแล้ว เลยตัดสินใจร่วมหุ้นกับเพื่อนรวม 4 คน เช่าทาวน์เฮาส์ และเปิดร้านอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าวันนี้ โดยใช้ชื่อร้านว่า บ้านขนมไทยนางใน” นายปกรนันท์ กล่าว
นายปกรนันท์ บอกต่ออีกว่า ขนมไทยสูตรชาววังที่ทำมีหลายชนิดมาก อาทิ บุหลันดั้นเมฆ, ละอองเกสรลำเจียก, ตะลุ่ม, พระพาย, เกสรชมพู่, ขนมโค ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขนมไทยโบราณ จากสถิติที่เปิดออเดอร์มา จะมีขนม “บุหลันดั้นเมฆ” ที่มียอดออเดอร์เข้ามามากที่สุด แต่ก็เป็นขนมที่ใช้วิธีการทำยากที่สุดด้วยเช่นกัน โดยขนมบุหลันดั้นเมฆ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของตัวแป้ง ที่ต้องผสมโดยใช้สูตรเฉพาะที่คิดค้นขึ้นมา โดยตัวแป้งจะออกหวานกลมกล่อม ไม่ให้หวานมาก เอาใจวัยรุ่นสมัยใหม่ที่ไม่ชื่นชอบการทานหวานมากนัก และส่วนที่ 2 จะเป็นตัวบุหลันที่ทำจากไข่แดง ผสมสูตรเฉพาะ เน้นมันๆ กว่าตัวแป้ง
 kn3
สำหรับวิธีการทำ นายปกรนันท์ เผยว่า ตนเทใส่ถ้วยขนมครก ซึ่งต้องนำถ้วยนั้นไปนึ่งก่อนประมาณ 15 นาที เพื่อให้ถ้วยร้อน ไม่เช่นนั้นเวลาที่แกะขนมออกจากถ้วยขนมจะติดถ้วย จากนั้นนำตัวแป้งเทลงไป นึ่งทิ้งไว้ 15 นาที ด้วยไฟปานกลาง เมื่อครบกำหนดนำตัวบุหลันมาโรยตรงกลาง โดยโรยเป็นชั้นทีละนิดด้วยไฟอ่อนสุด และเติมเรื่อยๆ ประมาณ 12 ชั้น จะพอดี และปิดฝานึ่งต่ออีกเล็กน้อย แล้วนำออกมาพักไว้ด้านนอกจนตัวแป้งเย็น แล้วจึงแคะออกจากถ้วย ใส่กล่องแพ็กให้สวยงามก็เป็นอันเรียบร้อย
ส่วนราคาขาย ขนมบุหลันดั้นเมฆ จะอยู่ที่ราคากล่องละ 50 บาท ส่วนขนมชนิดอื่นจะอยู่ที่ราคากล่องละ 35 บาท หรือ 3 กล่อง 100 บาท โดยจะรับออเดอร์ล่วงหน้า 1 วัน
ท่านใดที่อยากจะลิ้มรสขนมไทยโบราณสูตรชาววัง สมัยรัชกาลที่ 2 แห่งบ้านขนมไทยนางใน สามารถติดต่อ-สอบถาม หรือสั่งออเดอร์กันได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 08-8293-9995 ได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด นอกจากนี้ ทางร้านยังมีบริการเสิร์ฟพร้อมส่งถึงที่ให้สำหรับลูกค้าที่สั่งเป็นออเดอร์จัดเบรกขนมไทย ในเขตพื้นที่ตัวเมืองพิษณุโลกอีกด้วย

 อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

'บัวลอยหม้อไฟ' ธุรกิจใหม่ถูกใจคนรักขนมไทย

'บัวลอยหม้อไฟ' ธุรกิจใหม่ถูกใจคนรักขนมไทย

'บัวลอยหม้อไฟ' ธุรกิจใหม่ถูกใจคนรักขนมไทย เกี่ยวกับ ธุรกิจส่วนตัว

Workpoint TV
สนับสนุนเนื้อหา
ร้านขนมหวาน เป็นหนึ่งในอาชีพอิสระที่หลายคนอยากมี แต่การแข่งขันทุกวันนี้ถือว่ายากมาก เพราะมองไปทางไหนก็จะมีร้านที่คล้าย ๆ กัน
แต่มีอยู่ร้านหนึ่งที่เลือกนำเอาขนมไทยที่ทุกคนคุ้นเคย มาตกแต่งใหม่ให้ดูสะดุดตา นั่นก็คือ “บัวลอยหม้อไฟ” โดยร้านนี้โดดเด่นที่ภาชนะที่ใส่บัวลอย ซึ่งจะเป็นหม้อไฟขนาดเล็ก ส่วนเครื่องต่าง ๆ ที่ต้องใส่ในบัวลอย ก็จะแยกออกมาเป็นท็อปปิ้ง ลูกค้าอยากใส่อะไรก็สามารถแต่งเติมได้ตามใจชอบ
นายสุทธิรัตน์ สุภาจักร์ เจ้าของร้านบอกว่า ก่อนมาทำร้านขนม ทำอาชีพฟรีแลนซ์รับออกแบบมาก่อน แต่เพราะอยากมีรายได้เพิ่มและมั่นคง จึงมองหาอาชีพอื่นที่ยังคงเป็นงานอิสระ ซึ่งงานอิสระมีหลายอย่างแต่ที่เลือกทำเกี่ยวกับขนม เพราะญาติมีประสบการณ์ ขณะเดียวกันตัวเองก็มีความถนัดด้านการออกแบบ ที่เน้นขายไอเดีย
AdvertisementReplay Ad
ปัจจุบันร้านขนมมีจำนวนเยอะมาก แต่ละร้านจะมีเมนูคล้าย ๆ กัน เขาจึงต้องการสร้างความแตกต่างด้วยการนำเมนูขนมไทยอย่างบัวลอย มาตกแต่งให้ดูแปลกตา
เมนูบัวลอยหม้อไฟเริ่มเปิดตัวมาได้ประมาณเดือนกว่า ครั้งแรกเตรียมไว้เพียง 2 หม้อ แต่ทุกวันนี้ต้องเตรียมมากถึง 50-60 หม้อ แต่ก็ยังไม่พอกับความต้องการของลูกค้า เพราะมีการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่มาจากโซเชียลมีเดีย
ส่วนการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ถือว่ามีความจำเป็นมาก โดยร้านจะเน้นความเป็นกันเอง พูดคุยกับลูกค้าก่อนหน้าที่จะทำบัวลอยหม้อไฟ ซึ่งลูกค้าจะเยอะช่วง ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่หลังจากทำเมนูนี้ ปรากฎว่าลูกค้าเยอะทุกวัน หรือประมาณ 100-200 โต๊ะต่อวัน โดยกลุ่มลูกค้าตอนแรกตั้งเป้าเป็นกลุ่มเด็กนักเรียน แต่พอมาขายจริงแล้ว กลับเป็นกลุ่มครอบครัวเเละพนักงานบริษัท
ที่มา:  https://www.sanook.com/money/541927/

เกี่ยวกับฉัน


ชื่อ:  น.ส.รัชนานันท์    มาฟู

ชื่อเล่น:  พีม

วัน เดือน ปี เกิด :   30 พฤศจิกายน  2540

อายุ:  20 ปี

สถานที่ศึกษา:    มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย

คณะที่ศึกษา:   สำนักวิชาบริหารรัฐกิจ

สาขาที่ศึกษา:  รัฐประศาสนศาสตร์